การทำงานกันเป็นทีมเวิร์ก เป็นหนึ่งในทักษะทางสังคมที่สำคัญต่อเด็ก
September 26, 2025

ทักษะทางสังคม คืออะไร อยากปลูกฝังลูกตั้งแต่ยังเล็กต้องทำอย่างไร

เมื่อเด็กเติบโตขึ้น พวกเขาจำเป็นต้องทำความรู้จักกับสังคมใหม่ ๆ ที่กว้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คุณครู เพื่อนร่วมห้อง ไปจนถึงเพื่อนร่วมงานในอนาคต ความกล้าแสดงออกอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่ต้องมาพร้อมกับความสามารถในการเข้าสังคม พูดคุยกับคนได้ทุกเพศ ทุกวัย สิ่งนี้จะทำให้ลูกน้อยของคุณใช้ชีวิตได้โดยไม่เครียด และปรับตัวเข้าหาผู้อื่นได้ดี หรือก็คือ “ทักษะทางสังคม” (Social Skills) นั่นเอง บทความนี้จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปรู้จักกับความหมาย ความสำคัญ และวิธีปลูกฝังทักษะดังกล่าวให้ลูกได้เรียนรู้ตั้งแต่ยังเล็ก!

Content Highlight

  • ทักษะทางสังคมสำหรับเด็ก เป็นทักษะที่ใช้ในการสื่อสารและอยู่ร่วมกับผู้คนในสังคม เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข รู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเอง และแสดงออกอย่างเหมาะสม
  • เด็กที่ขาดการปลูกฝังทักษะทางสังคม อาจถูกกีดกันออกจากกลุ่มเพื่อน หรือไม่มีเพื่อนสนิท เพราะไม่รู้วิธีเข้าหาและทำความรู้จักคนอื่น ทำให้เด็กสูญเสียความมั่นใจและไม่มีสังคมในที่สุด
  • ตัวอย่างทักษะที่ควรปลูกฝังลูกตั้งแต่ยังเล็ก เช่น การเป็นผู้ฟังที่ดี การแบ่งปัน มีความอดทน และการคิดบวก เป็นต้น
ทักษะทางสังคมสำหรับเด็ก คือ ทักษะที่ใช้ในการสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์กับคนในสังคม

รู้จักทักษะทางสังคม (Social Skills) ทักษะที่เด็กยุคนี้ควรมีติดตัว

ทักษะทางสังคม คือ ทักษะที่มนุษย์ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับคนในสังคม ประกอบด้วยวิธีการพูดจา บุคลิกภาพ การแสดงออกทางสีหน้า ไปจนถึงภาษากายที่เหมาะสมกับสังคม หากเด็ก ๆ ขาดการปลูกฝังทักษะทางสังคมสำหรับเด็กที่ดี อาจมีปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน  การแสดงออกต่อหน้าผู้ใหญ่ ไม่กล้าเข้าสังคม และเกิดความไม่พอใจในตัวเอง เพราะไม่เข้าใจอารมณ์ของตัวเองหรือผู้อื่น และไม่รู้จัดการกับมันยังไง เพื่อให้ลูกของคุณเติบโตเป็นเด็กที่แข็งแรงทางจิตใจ ทักษะนี้จึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด

ความสำคัญและประโยชน์ของทักษะทางสังคม 

  • รู้จักวิธีการเข้าหาเพื่อน ๆ เพราะคนแต่ละคนก็มีนิสัยที่แตกต่างกันไป เด็กที่มีทักษะทางสังคมมีแนวโน้มที่จะเข้าหาเพื่อน ๆ ได้ง่ายกว่า เพราะเลือกวิธีการแสดงออกและพูดคุยได้อย่างเหมาะสม ทำให้เพื่อนไม่รู้สึกอึดอัดและอยากสนิทด้วย
  • เข้าใจอารมณ์ของตัวเองและผู้อื่น ทักษะทางสังคมช่วยให้เด็กเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของตัวเองและผู้อื่น ทั้งอารมณ์โกรธ เสียใจ หรือหงุดหงิด ทำให้รู้วิธีในการขจัดอารมณ์ลบออกไป รวมถึงเข้าอกเข้าใจคนอื่นมากขึ้นว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนี้ แล้วมีวิธีอะไรบ้างที่ช่วยเขาให้อารมณ์ดีขึ้นได้  
  • รู้จักยอมรับ เมื่อเกิดความผิดพลาดหรือทำให้ผู้อื่นรู้สึกไม่ดี ก็จะรีบขอโทษและแก้ไขสถานการณ์รอบตัวให้ดีขึ้น หรือหากเกิดความผิดหวังขึ้น ก็จะสามารถยอมรับได้อย่างรวดเร็ว ไม่จมกับความรู้สึกลบนาน และใช้ชีวิตต่อได้อย่างสบายใจ
  • มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เมื่อเด็ก ๆ สามารถเข้าสังคมและกล้าพูดคุยกับเพื่อน ๆ พวกเขาก็จะมีความมั่นใจและมีสุขภาพจิตที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังรู้จักชื่นชมตัวเองเมื่อประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ก็ตาม
ทักษะทางสังคมช่วยให้เด็กมีเพื่อน มีสังคมและมีสุขภาพจิตที่ดี

7 ทักษะทางสังคมที่จำเป็น มีอะไรบ้าง และมีวิธีปลูกฝังให้ลูกอย่างไร

ทักษะทางสังคมช่วยให้เด็กมีเพื่อนเข้ามาหา พูดคุย และอยากเล่นด้วย คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้หมดห่วงเรื่องลูกเข้ากับเพื่อนในโรงเรียนไม่ได้ และลดโอกาสถูกกีดกันจากเพื่อนร่วมห้องด้วย มาดูกันดีกว่า ทักษะที่จำเป็นจะมีอะไรบ้าง แล้วคุณพ่อคุณแม่มีวิธีสอนอย่างไรให้เด็กเข้าใจ

1. การแบ่งปัน (Sharing)

ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งขนม หนังสือ หรือสิ่งของต่าง ๆ ให้กับคนอื่น ซึ่งการรู้จักแบ่งปันช่วยสร้างมิตรภาพ และทำให้เด็กรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เพื่อน ๆ ก็จะมองว่าเด็กคนนี้เป็นคนใจดี ไม่เห็นแก่ตัว และอยากเข้ามาทำความรู้จักด้วย 

  • อธิบายให้ลูกรับรู้ว่าการแบ่งปันมีความสำคัญอย่างไร
  • จำลองสถานการณ์ หรือเมื่ออยู่ในเหตุการณ์จริงก็คอยสอนลูกให้เขาลองแบ่งปันสิ่งของให้คนอื่น
  • ชื่นชมลูกทุกครั้งเมื่อเขาแบ่งปัน เพื่อให้เด็กรู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ถูกต้อง

2. การรับฟังผู้อื่น (Listening)

การเป็นผู้ฟังที่ดี เป็นทักษะทางสังคมที่ช่วยส่งเสริมทักษะการสื่อสาร ช่วยให้เขาเข้าใจสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการจะสื่อ ช่วยพัฒนาการเรียนรู้และวิธีการแสดงออกอย่างเหมาะสม รวมถึงมีสมาธิและสามารถจดจ่อกับการสนทนาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ การรู้จักรับฟังความคิดเห็นผู้อื่นอย่างตั้งใจและไม่ตัดสิน ช่วยสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับคนรอบข้างด้วย

  • สอนให้ลูกเงียบเวลาคนอื่นกำลังพูด ไม่ขัดจังหวะ และตั้งใจฟังอีกฝ่าย
  • สอนภาษากาย เพื่อแสดงออกให้เขารับรู้ว่าเรากำลังตั้งใจฟัง เช่น สบตา พยักหน้า หรือมีปฏิกิริยาตอบกลับ
การทำงานกันเป็นทีมเวิร์ก เป็นหนึ่งในทักษะทางสังคมที่สำคัญต่อเด็ก

3. การทำงานกันเป็นทีม (Teamwork)

การเรียนรู้ในห้องเรียนมาพร้อมกับการทำงานกลุ่มร่วมกับคนในห้องเสมอ เพื่อให้ลูกไม่ขัดแย้งกับเพื่อน ๆ ควรสอนให้เขารู้จักการทำงานเป็นทีมเวิร์ก ที่จะช่วยให้เด็กเข้าใจคุณค่าและความสามารถของเพื่อนแต่ละคน และแบ่งปันหน้าที่ที่เหมาะสมกับความถนัด ลดการทะเลาะและไม่สนิทใจกัน

  • สอนลูกผ่านการเล่นบอร์ดเกม หรือกิจกรรต่าง ๆ ที่ต้องทำด้วยกันหลาย ๆ คน
  • สอนให้ลูกรู้จักรับฟังมุมมองของผู้อื่น และเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง
  • หากเกิดปัญหาในทีมก็ช่วยกันแก้ไข ไม่ทิ้งใครไว้คนเดียว

4. ความอดทน (Patience)

ความอดทน ช่วยให้เด็กมีวุฒิภาวะและมีความมั่นคงทางอารมณ์ นอกจากนี้ ยังเป็นทักษะทางสังคมที่ช่วยให้จดจ่อกับการเรียนในห้องได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ทักษะทางวิชาการดีตามไปด้วย 

  • คุณพ่อคุณแม่ควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก เช่น การรอคิว การต่อแถวซื้อของ โดยไม่แซงคิวผู้อื่น
  • สอนให้รู้จักรอ ทำตามกติกา ไม่แสดงกิริยาไม่น่ารักเมื่อรู้สึกเบื่อหรือหงุดหงิด
  • สอนให้ควบคุมอารมณ์และแสดงออกอย่างเหมาะสมต่อหน้าผู้อื่น

5. การเคารพพื้นที่ส่วนตัว (Respecting Boundaries)

การปลูกฝังให้เด็ก ๆ เข้าใจและเคารพขอบเขตของผู้อื่น จะช่วยให้พวกเขารู้จักให้เกียรติและไม่ก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของคนรอบข้าง ทั้งเพื่อน ครอบครัว และคนรอบตัว ทำให้คนรู้สึกไว้ใจและมองว่าลูกน้อยคุณเป็นเด็กที่มีมารยาท

  • สอนให้รู้จักขออนุญาตผู้อื่นก่อนทุกครั้ง 
  • สอนให้ลูกไม่สอบถามเรื่องส่วนตัวของคนอื่น ไม่ว่าจะสนิทหรือไม่ก็ตาม
  • อธิบายให้ลูกรับฟังว่าทำไมถึงควรเคารพผู้อื่น และควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อมีคนมาก้าวก่ายพื้นที่ส่วนตัวของเรา
  • คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องไม่เข้าไปยุ่งพื้นที่ส่วนตัวของลูก เช่น ไม่เข้าห้องลูกโดยไม่เคาะประตู หรือหยิบโทรศัพท์ลูกมาเช็กโดยไม่ขออนุญาต
การคิดบวก เป็นทักษะทางสังคมที่ช่วยให้เด็กเป็นคนอารมณ์ดีและมั่นใจในตัวเอง

6. การคิดเชิงบวก (Positive Attitude)

การคิดบวก เป็นทักษะทางสังคมที่ช่วยให้เด็กเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเอง ยอมรับในความเป็นตัวเอง ใช้ชีวิตได้โดยไร้ความกังวล ถ้าเกิดปัญหาขึ้นก็แค่แก้ไข มีความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ และไม่กลัวอุปสรรคที่จะเข้ามาในอนาคต

  • สอนให้ลูกรู้จักชื่นชมตัวเอง และเขียน Journal เพื่อตกตะกอนสิ่งดี ๆ ที่เจอในแต่ละวัน
  • หมั่นแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดกับลูก เพื่อให้รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร มีความรู้สึกแบบไหน

7. การแก้ไขความขัดแย้ง (Conflict Resolution)

ปฏิเสธไม่ได้ว่าแม้จะเตรียมตัวป้องกันปัญหาไว้ดีแค่ไหน ก็อาจเกิดความขัดแย้งขึ้นมาได้ทุกเมื่อ คุณพ่อคุณแม่จึงควรฝึกให้ลูกเรียนรู้วิธีรับมือกับความขัดแย้ง เพื่อให้สามารถจัดการอารมณ์และความคิดได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น 

  • สอนให้ลูกรู้จักประนีประนอม ไม่ใช้คำพูดรุนแรงในการแก้ไขปัญหา
  • ใจเย็น ค่อย ๆ รับฟังมุมมองของแต่ละคน และพยายามหาวิธีแก้ไขที่เป็นประโยชน์กับทุกคนมากที่สุด
  • รู้จักขอโทษเมื่อทำผิดพลาด และให้อภัยเมื่อเพื่อนทำผิดกับเรา

สรุป

ทักษะทางสังคมต้องใช้เวลาในการปลูกฝัง คุณพ่อคุณแม่ต้องสอนและแนะนำลูกอย่างต่อเนื่อง ค่อย ๆ สอนให้พวกเขาเรียนรู้ความสำคัญของการเคารพและให้เกียรติคนรอบข้าง ไม่ต้องบังคับหรือกดดันเขาจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เด็กสูญเสียความมั่นใจได้ อาจลองพาลูกไปพบกับสังคมหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้มากขึ้น เมื่อเด็กได้เจอกับคนใหม่ ๆ พวกเขาก็จะเริ่มเรียนรู้ที่จะปรับตัวและเข้าหาคนอื่นอย่างเป็นธรรมชาติ เท่านี้ลูกของคุณก็จะเติบโตเป็นเด็กที่พร้อมเผชิญกับความท้าทายในอนาคต

General Enquiries : +66 (0) 2668 6231