สุขภาพของลูกคือสิ่งสำคัญที่สุดของพ่อแม่ เพราะเด็กเป็นวัยกำลังเติบโต ทำให้เกิดโอกาสเจ็บป่วยได้ง่าย ๆ มาก นอกจากการเล่นกีฬา หรือออกกำลังกายแล้ว อาหารการกินก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ลูกแข็งแรง บทความนี้จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปทำความรู้จัก “โภชนาการเด็ก” สำหรับเด็กปฐมวัย สารอาหารใดบ้างที่จำเป็น และต้องรับประทานในอัตราส่วนเท่าไหร่ มาหาคำตอบกันเลย!
โภชนาการเด็ก คืออะไร
โภชนาการเด็ก คือ การที่เด็กได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์และเพียงพอต่อความต้องการ เพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโตอย่างสมวัย เพราะเด็กที่ขาดสารอาหารหรือรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ จะทำให้เกิดภาวะทุพพลภาพและสมองไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ ถ้าอยากให้ลูกน้อยโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ พ่อแม่ก็ควรใส่ใจกับโภชนาการเด็กให้มาก ๆ

ทำไมลูกของคุณควรรับประทานตามโภชนาการเด็ก
ร่างกายแข็งแรง อวัยวะเติบโตได้อย่างเต็มที่
เพราะเด็กปฐมวัยยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ จึงต้องการสารอาหารที่มีประโยชน์และครบตามโภชนาการเด็ก เพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูกให้แข็งแรง มีน้ำหนัก-ส่วนสูงเป็นไปตามเกณฑ์ โดยเฉพาะน้ำหนักถ้ามากหรือน้อยเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตได้
มีภูมิต้านทานต่อโรคภัยไข้เจ็บที่ดี
เมื่อสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพเข้าสู่ร่างกาย จะช่วยสร้างเม็ดเล็อดขาว ปราการสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ลูกไม่เจ็บป่วยง่าย และไม่ได้หมายถึงแค่โรคทางกายเท่านั้น เพราะร่างกายที่แข็งแรง สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้เด็กมีสุขภาพจิตที่ดีและมีความสุขในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวัน
เสริมสร้างระบบประสาทและสมอง
งานวิจัยหลายแห่งพบว่า โภชนาการเด็ก มีผลต่อการเติบโตของสมอง ยิ่งร่างกายได้รับสารอาหารที่ดี ขนาดของสมองก็จะใหญ่ตามไปด้วย ทำให้เด็กมีพัฒนาการด้านสมาธิและสติปัญญาที่ดี โดยเฉพาะเด็กทารกตั้งแต่ 0 – 6 เดือน เป็นวัยที่สมองกำลังเจริญเติบโต ดังนั้น ควรเลือกอาหารเด็กเล็กที่ช่วยบำรุงสมอง รวมถึงรับประทานนมแม่อย่างสม่ำเสมอ

โภชนาการเด็กเล็ก ประกอบด้วยสารอาหารชนิดใดบ้าง
สำหรับแคลอรี่ที่เหมาะสมของเด็กเล็กอายุ 1 – 5 ปี อยู่ที่ 1,000 – 1,300 กิโลแคลอรี่ต่อวัน เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญได้ดี และไม่สะสมมากจนเกินไป และแน่นอนว่าในอาหารแต่ละมื้อต้องมีสารอาหารครบทั้ง 5 หมวดหมู่ ดังนี้
1. โปรตีน
ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายได้เป็นอย่างดี เสริมสร้างเซลล์ เนื้อเยื่อและฮอร์โมน สำหรับเด็กปฐมวัยควรรับประทานที่ 20 – 25 กรัมต่อวันตามระบุไว้ในโภชนาการเด็ก แหล่งโปรตีนชั้นดีสำหรับเด็กมีดังนี้
- ไข่ สามารถทานวันละ 1 ฟอง ช่วยทำให้อิ่มนาน ไม่กินขนมจุกจิกบ่อย
- เนื้อสัตว์ เช่น ปลา ไก่ หมู เพราะมีโปรตีนสูง ควรเลือกส่วนที่มีไขมันน้อยในการประกอบอาหาร
- นม เครื่องดื่มที่ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง เพราะมีโปรตีนและแคลเซียมสูง แต่สำหรับเด็กที่แพ้นมวัว ก็ควรหานมชนิดอื่นมาทดแทน
2. คาร์โบไฮเดรต
สารอาหารที่เป็นแหล่งพลังงานสำคัญ แต่ต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เพราะร่างกายสามารถย่อยคาร์โบไฮเดรตให้กลายเป็นน้ำตาลได้
- ธัญพืช ควรเป็นธัญพืชที่ไม่ขัดสีอย่าง ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ถั่วแดง ถั่วเขียว
- ผัก ผักบางชนิดมีแป้งสูง เช่น มันฝรั่ง ข้าวโพด มันเทศ
3. ไขมัน
โภชนาการเด็ก จะขาดไขมันไปไม่ได้ เพราะช่วยสร้างความอบอุ่นและส่งเสริมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย รวมถึงกระตุ้นการสร้างฮอร์โมน ทั้งเอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรน โดยไขมันที่ดีสำหรับเด็กมีต่อไปนี้
- ไขมันไม่อิ่มตัว อะโวคาโด เมล็ดงา เมล็ดฟักทอง น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก
- ปลา เช่น แซลมอน ปลาทูน่า
4. วิตามิน
วิตามินช่วยสร้างภูมิต้านทาน และทำให้เด็กสามารถควบคุมอารมณ์ได้คงที่ โดยการขาดวิตามิน ส่งผลเสียต่อการทำงานของร่างกายจนอาจเกิดเป็นโรคร้ายแรง เช่น โรคโลหิตจาง โรคลักปิดลักเปิด โรคเหน็บชา เป็นต้น
- วิตามิน A น้ำมันตับปลา ตับ ฟักทอง แครอท
- วิตามิน B เนื้อสัตว์ ปลา ธัญพืช ชีส เครื่องในสัตว์ ถั่ว (สามารถพบทุกวิตามิน B ย่อยได้ในหมวดหมู่อาหารเหล่านี้)
- วิตามิน C ส้ม ฝรั่ง บล๊อกโคลี คะน้า
- วิตามิน D ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน ไข่แดง แต่พบในอาหารได้ค่อนข้างน้อย แนะนำให้พาลูกออกไปเจอแสงแดดบ่อย ๆ จะดีกว่า
- วิตามิน E น้ำมันดอกทานตะวัน ถั่วลิสง
- วิตามิน K ผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า กะหล่ำปลี
5. เกลือแร่
โภชนาการเด็ก จะไม่สมบูรณ์หากในมื้ออาหารนั้น ๆ ไม่มีเกลือแร่ เพราะเป็นแร่ธาตุที่ช่วยทดแทนการสูญเสียน้ำ และควบคุมการทำงานหัวใจ
- ผลไม้ มีใยอาหารและแร่ธาตุจำนวนมาก ควรเลือกผลไม้ที่มีระดับน้ำตาลต่ำ เช่น แก้วมังกร กีวี่
- เครื่องปรุง เช่น เกลือ น้ำปลา
- ผัก เช่น ผักบุ้ง ผักโขม ตำลึง

St.Andrews Dusit ส่งเสริมโภชนาการในเด็ก ด้วยมื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพ
โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูว์ส ดุสิต มีห้องรับประทานอาหารปรับอากาศหรือ “Food House” สำหรับนักเรียนชั้น Nursery ไปจนถึง Year 6 โดยมีบุคลากรและคุณครูคอยดูแลมื้ออาหารของเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิด รับรองว่าตรงตามโภชนาการตามวัย 0 – 5 ปี ไปจนถึงอายุ 11 ปี
เด็ก ๆ จะไม่มีอาการเบื่ออาหาร เพราะทางเราจะอัปเดตเมนูใหม่อยู่เรื่อย ๆ ทั้งอาหารจานหลักและของว่าง เพื่อความหลากหลายทางสารอาหาร นอกจากนี้ ทีมงานของเซนต์แอนดรูว์ส ดุสิต ทำงานร่วมกับนักโภชนาการมืออาชีพ มั่นใจได้ว่าอาหารทุกมื้อจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพต่อนักเรียนตลอดระยะเวลาเรียน มาดูกันว่าเมนูแต่ละวันมีอะไรบ้าง
Morning Snack
- เบเกอรี่
- ผลิตภัณฑ์จากนม
- ผลไม้สด
Lunch
- อาหารเอเชีย
- อาหารตะวันตก
- อาหารมังสวิรัติ
- อาหารวีแกน
- เมนูไข่
- ข้าวสวยและข้าวไรซ์เบอร์รี่
- ก๋วยเตี๋ยว
- บาร์แซนวิช
- บาร์สลัด
Afternoon Snack (สำหรับชั้น Nursery – Reception)
- เครื่องดื่ม
- ผลิตภัณฑ์จากนม
- ผลไม้สัตว์
สรุป
อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญของชีวิตที่มนุษย์ขาดไม่ได้ สำหรับเด็กแล้วยิ่งจำเป็น เพราะพวกเขายังไม่มีความรู้ด้านสารอาหาร จึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องจัดเตรียมมื้ออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเด็กอย่างครบถ้วน เพื่อให้เด็กได้รับพลังงานที่เพียงพอต่อวันและมีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะการที่ลูกไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐสำหรับที่แท้จริง