สำหรับยุคศตวรรษที่ 21 ความสามารถทางวิชาการก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะทฤษฎีต่าง ๆ สามารถนำไปต่อยอดเป็นองค์ความรู้หรือวิทยาทานใหม่ ๆ ได้อีกมากมาย แต่การมีแค่ความรู้อย่างเดียวถือว่าเพียงพอ เพราะมนุษย์เกิดมาเป็นสัตว์สังคมที่ต้องอาศัยการพึ่งพาซึ่งกันและกัน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดังนั้น เราควรมีความตระหนักรู้สิ่งต่าง ๆ รอบโลก เพื่อนำพาให้สังคมก้าวหน้าไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งที่เกริ่นไปข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดความเป็นพลเมืองโลก หรือ Global Citizen ที่เราควรปลูกฝังให้กับเด็กตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นการเตรียมพร้อมต่อการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต
Content Highlight
- Global Citizen เป็นแนวคิดที่ต้องการให้มนุษย์มีความรู้สึกเชื่อมโยงและเป็นส่วนหนึ่งกับโลก แม้ว่าจะมีเชื้อชาติ ศาสนา สัญชาติที่แตกต่างกัน เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาในสังคมและร่วมมือแก้ไขไปพร้อมกัน
- โรงเรียนสามารถส่งเสริมความเป็นพลเมืองโลกได้ด้วยการปรับหลักสูตรให้เข้ากับประเด็นโลก จัดกิจกรรมและการทำโปรเจกต์เป็นกลุ่มมากขึ้น เพื่อให้เด็ก ๆ ทดลองทำงานร่วมกันและรู้จักปรับวิธีการสื่อสารให้เข้ากับเพื่อน ๆ
- การพาไปทัศนศึกษาและทำจัดงานการกุศล ก็เป็นอีกวิธีการสนับสนุนความเป็น Global Citizen เพราะทำให้เด็กรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น

Global Citizen คืออะไร
Global Citizen เป็นแนวคิดที่ต้องการให้มนุษย์รู้สึกเชื่อมโยงกัน แม้ว่าจะมีเชื้อชาติ ภาษา และศาสนาที่แตกต่างกัน รวมถึงรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของพลเมืองโลก ผ่านการเรียนรู้ เข้าใจ และตระหนักถึงประเด็นต่าง ๆ ทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมด้วยช่วยกันแก้ไขปัญหาเหล่านั้น พากันขับเคลื่อนโลกใบนี้ให้สงบสุขและดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
หน้าที่ของ Global Citizen มีอะไรบ้าง
- การสำรวจและสังเกตปัญหาต่าง ๆ รอบตัว ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ ไปจนถึงระดับโลก
- การทำความเข้าใจกับมุมมองที่หลากหลาย และเรียนรู้ที่จะพูดคุยกับคนที่มีมุมมองที่แตกต่างกัน พยายามค้นหาวิธีที่ทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจกัน หลีกเลี่ยงการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
- ส่งเสริมการตระหนักรู้ระดับโลก (Global Awareness) เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมและช่วยกันแก้ไขปัญหาอย่างเต็มใจ เช่น สิทธิเสรีภาพของแรงงาน สิทธิสตรี การคุกคามทางเพศ หรือการเหยียดเชื้อชาติ
- เข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เช่น การทำจิตอาสา บริจาคสิ่งของแก่ผู้ด้อยโอกาส สมทบทุนเพื่อสร้างโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล เป็นต้น
- ปฏิบัติตนตามหลักจริยธรรม ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมและเพื่อนร่วมโลก

ความสำคัญของการปลูกฝังให้เด็กเป็น Global Citizen ตั้งแต่ยังเล็ก
ประการที่ 4 ใน 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ UNESCO ก็คือการศึกษาที่มีคุณภาพ เพราะการศึกษาที่ดีเป็นแรงผลักดันที่ทำให้มนุษย์สามารถก้าวหน้าไปได้ไกลขึ้น รวมถึงมองว่าการปลูกฝังแนวคิดความเป็นพลเมืองโลกลงไปในการศึกษานั้น สามารถช่วยฝึกฝนเด็กในการรับมือกับความท้าทายในอนาคตได้อีกด้วย และยังมีข้อดีอื่น ๆ อีก ดังนี้
เข้าใจความหลากหลายของเพื่อนร่วมโลก
เพราะเด็กทุกคนต้องเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ และเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เมื่อโตขึ้นพวกเขาจะได้พบเจอกับผู้คนที่มีความแตกต่างกัน แนวคิด Global Citizen จะทำให้พวกเขาเข้าใจในความหลากหลาย เคารพวัฒธรรมและชุดความคิดที่คนละมุมมองกัน เรียนรู้วิธีในการปรับตัวเข้าหากัน กล้าเข้าสังคม และสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
มีความรับผิดชอบต่อสังคม
แนวคิด Global Citizen สนับสนุนให้เด็กทุกคนได้ทำประโยชน์บางอย่างเพื่อสังคม ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือใหญ่โตแค่ไหนก็ตาม ทั้งการลงมือปฏิบัติและเป็นกระบอกเสียงให้คนรับรู้ถึงปัญหาในสังคม เพื่อส่งเสริมสิทธิต่าง ๆ ขับเคลื่อนความยุติธรรม และลดความขัดแย้งในสังคม
อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน
ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมหรือสภาพอากาศ เป็นปัญหาที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น อุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือมลพิษที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ซึ่งแนวคิดความเป็นพลเมืองโลกจะทำให้เด็ก ๆ ที่จะต้องเป็นผู้ที่อาศัยบนโลกนี้ต่อไปในอีกหลาย ๆ ปี ได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มากขึ้น เพื่อค้นหาทางชะลอหรือลดการเกิดปัญหาต่าง ๆ ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

โรงเรียนนานาชาติมีวิธีการปลูกฝังแนวคิด Global Citizen อย่างไรบ้าง
1. ปรับหลักสูตรให้เข้ากับแนวคิดความเป็นพลเมืองโลก
ออกแบบหลักสูตรให้สอดคล้องกับประเด็นโลก โดยการรวบรวมเนื้อหาและใช้สื่อการเรียนรู้เข้าช่วย เพื่อให้เด็กมองเห็นภาพของปัญหาต่าง ๆ ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถนำประเด็นดังกล่าวไปควบรวมกับการสอนเนื้อหาในแต่ละวิชาได้ด้วย ตัวอย่างเช่น
- วิชาภูมิศาสตร์ สอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทรัพยากรทางธรรมชาติที่หลงเหลืออยู่ หรือสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ เป็นต้น
- วิชาประวัติศาสตร์ สอนประวัติความเป็นมาของแต่ละประเทศ ความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม ภาษาที่ใช้ในประเทศนั้น ๆ รวมถึงเหตุการณ์สำคัญในแต่ละยุคสมัย ที่นำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน
2. ออกแบบกิจกรรมที่ต้องทำงานกันเป็นทีม
เพื่อให้เด็กได้ฝึกฝนทักษะที่จำเป็นและสอดคล้องกับแนวคิดพลเมืองโลกมากขึ้น กิจกรรมของหลักสูตรควรทำงานกันเป็นทีม เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และฝึกฝนภาวะความเป็นผู้นำ เรียนรู้ที่จะรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง เปิดกว้างทางความคิด รวมถึงการสื่อสารอย่างใจเย็นกับเพื่อนร่วมห้อง

3. ส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียน เพื่อให้เข้าใจโลกมากขึ้น
การเรียนรู้นอกห้องเรียนหรือ Outdoor Education เป็นการเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ให้ได้ทดลอง ลงมือ และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งรูปแบบกิจกรรมนอกห้องเรียนที่ช่วยส่งเสริมความเป็น Global Citizen ได้แก่ การออกไปสำรวจป่า ปลูกพืชและบันทึกการเจริญเติบโต การสังเกตสัตว์เล็กรอบตัว หรือการพาไปทัศนศึกษา ที่จะช่วยเด็กมีมุมมองและองค์ความรู้ที่กว้างกว่าห้องสี่เหลี่ยม เช่น การพาไปพิพิธภัณฑ์ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ หรือห้องแล็ป เป็นต้น
4. สนับสนุนการเรียนรู้ภาษาที่หลากหลาย
การสนับสนุนการเรียนรู้ภาษาที่ 2 และภาษาที่ 3 จะทำให้เด็กสามารถสื่อสารกับผู้คนบนโลกได้มากขึ้น เข้าใจสิ่งที่คนในประเทศนั้น ๆ พูดคุยและถกเถียงกัน สามารถเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากันได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดประตูสู่การศึกษาและการทำงานในต่างประเทศอีกด้วย

5. ส่งเสริมเด็กด้วยกิจกรรมจิตอาสา
การทำให้เด็กเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นบนโลกมากที่สุด คือการให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์นั้น ๆ โดยการทำกิจกรรมจิตอาสา เป็นอาสาสมัครในท้องถิ่น ให้พวกเขาได้สัมผัสกับผู้คนที่กำลังประสบปัญหาอยู่จริง หรือจะจัดกิจกรรมปลูกป่า ปลูกปะการัง เพื่อซ่อมแซมธรรมชาติก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้โรงเรียนนานาชาติสามารถสนับสนุนความเป็น Global Citizen ได้ด้วยการจัดแคมเปญหรืองานการกุศลต่าง ๆ เพื่อนำเงินไปบริจาคให้กับองค์กรหรือกลุ่มคนต่าง ๆ จะช่วยให้เด็ก ๆ มีความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนร่วมโลกและมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งขึ้น
สรุป
เพราะโลกที่แท้จริงนั้นกว้างใหญ่กว่าที่เด็ก ๆ วาดฝันไว้ ดังนั้น โรงเรียนจึงควรมีการปลูกฝังแนวคิดความเป็นพลเมืองโลกให้กับนักเรียนตั้งแต่อายุน้อย เพื่อเปิดมุมมองต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ให้มีความเข้าใจ เคารพในความแตกต่าง และเปิดใจรับฟังผู้อื่นมากขึ้น อีกทั้ง ปัญหาที่เกิดขึ้นรอบตัวเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญในอนาคต ยิ่งสอนพวกเขาให้เรียนรู้ได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งปรับตัวได้เร็วขึ้นเท่านั้น
ที่โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูว์ส ดุสิต เราปลูกฝังความเป็น Global Citizen ตั้งแต่ชั้น Early Years ผ่านวิชา “Understanding the World” เพื่อขยายขอบเขตประสบการณ์และความรู้ให้กับเด็ก ๆ ผ่านการปรับปรุงหลักสูตรและส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับความหลากหลายทางวัฒนธรรม เทคโนโลยี และประเด็นสังคม ผ่านวิชาเรียน การทำกิจกรรม หรือการไปทัศนศึกษา เพื่อให้พวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและเตรียมพร้อมจะเติบโตไปเป็นพลเมืองที่ดีของโลกใบนี้