การเรียนรู้ที่มีผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ช่วยกระตุ้นความสนใจในห้องเรียนได้เป็นอย่างดี
June 18, 2025

การเรียนการสอนแบบนักเรียนเป็นศูนย์กลางของโรงเรียนนานาชาติ มีความสำคัญอย่างไร

ถ้าพูดถึงบทบาทสำคัญภายในห้องเรียน แน่นอนว่าทุกคนต้องนึกถึงผู้เรียนและผู้สอน ซึ่งบุคคลที่ทำหน้าที่หลักและเป็นผู้นำในห้องเรียนส่วนใหญ่ก็จะเป็นคุณครู โดยครูจะมีหน้าที่จัดเตรียมเนื้อหาและสอนความรู้ต่าง ๆ ไปสู่นักเรียน แต่สำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 นั้น การสอนรูปแบบดั้งเดิมนี้อาจไม่ตอบโจทย์และครอบคลุมความต้องการของเด็กอีกต่อไป การเรียนรู้ที่มีนักเรียนเป็นศูนย์กลาง (Student Centered Learning) จึงกลายเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในปัจจุบัน มาดูกันว่าการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นหลักนั้นมีความสำคัญอย่างไรบ้าง

Content Highlight

  • Student Centered Learning เป็นการเรียนรู้ที่เปลี่ยนจากครูที่เคยเป็นผู้มีบทบาทหลักในห้องเรียนเป็นนักเรียนแทน โดยนักเรียนจะได้มีส่วนร่วมในห้องเรียนอย่างเต็มที่ ผ่านการกำหนดหัวข้อในการเรียนรู้ตามความชอบหรือความสนใจ
  • การเรียนรู้แบบดั้งเดิมที่มีครูเป็นศูนย์กลาง จะทำให้เด็กไม่ได้พัฒนาสกิลการคิดวิเคราะห์และการทำงานร่วมกับผู้อื่น เท่ากับการเรียนรู้ที่มีนักเรียนเป็นศูนย์กลาง
  • ข้อควรระวังในการออกแบบการเรียนรู้ที่มีผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง คือ นักเรียนอาจสนุกสนานกับกิจกรรมมากเกินไป จนละเลยเนื้อหาหลักในห้องเรียน
Student Centered Learning คือ รูปแบบการเรียนการสอนที่มีนักเรียนเป็นศูนย์กลาง

I am text block. Click edit button to change this text. Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

การสอนแบบ Student Centered Learning คืออะไร

Student Centered Learning คือ วิธีการสอนที่กำหนดให้นักเรียนเป็นผู้มีบทบาทมากที่สุดในห้อง ส่วนคุณครูจะออกแบบเนื้อหาและวิธีการสอนที่ตรงกับความต้องการ จุดแข็ง และความสนใจของผู้เรียน ซึ่งจะช่วยพัฒนาทั้งการคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ และการมีส่วนร่วมในห้องเรียนอย่างเต็มที่ กล่าวคือ บทบาทของครูจะเปลี่ยนไป กลายเป็นโค้ชหรือผู้ช่วยทำให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างราบรื่นนั่นเอง โดยลักษณะของห้องเรียนที่เป็น Student Centered Learning มีดังนี้

  • ผู้เรียนจะมีโอกาสได้เลือกหัวข้อที่อยากเรียน
  • นักเรียนและคุณครูมีการโต้ตอบกัน ตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
  • คุณครูอาจจะตั้งโจทย์แบบปลายเปิด และให้เด็กนักเรียนช่วยกันระดมสมอง เพื่อแก้ไขปัญหาหรือผลัดกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
  • นักเรียนจะนั่งกันเป็นวงกลมหรือนั่งรอบโต๊ะเล็ก ๆ แทนการนั่งหันเข้าหากระดานและคุณครู

ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง VS คุณครูเป็นศูนย์กลาง แตกต่างกันอย่างไร

การเรียนรู้ที่มีผู้เรียนเป็นศูนย์กลางจะเปิดโอกาสนักเรียนได้มีส่วนร่วมกับการเรียน แต่คุณครูจะคอยให้คำแนะนำ ข้อเสนอแนะ หรือวิธีแก้ไขไปตลอดกิจกรรมหรือโจทย์นั้น ๆ มากกว่าการตอบคำถามเพียงอย่างเดียว เมื่อเทียบกับการเรียนแบบที่มีคุณครูเป็นศูนย์กลาง วิธีการเรียนการสอนมักจะเป็นแบบท่องจำเพื่อนำไปสอบ ทำให้นักเรียนไม่ได้ทดลองปฏิบัติ หรือรู้จักประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เท่าที่ควร รวมถึงไม่ได้พัฒนาทักษะการสื่อสารร่วมกับเพื่อนในชั้นเรียน และการคิดวิเคราะห์อย่างเต็มที่อีกด้วย

I am text block. Click edit button to change this text. Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

การเรียนรู้ที่มีผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ช่วยกระตุ้นความสนใจในห้องเรียนได้เป็นอย่างดี

Student Centered Learning มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง

“จุดเด่น” ของการเรียนรู้แบบนักเรียนเป็นศูนย์กลาง

  • นักเรียนได้กำหนดรูปแบบการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ซึ่งช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเรียนรู้ และความกระตือรือร้นในการเรียนหนังสือได้เป็นอย่างดี
  • เมื่อนักเรียนสนุกกับการเรียน ก็จะสามารถโฟกัสและจดจำเนื้อหาต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
  • ผู้เรียนจะมีความมั่นใจมากขึ้น เมื่อได้ลองคิดวิเคราะห์และทดลองทำโครงการด้วยตัวเอง
  • การเรียนแบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลางมักจะมีโปรเจกต์หรือกิจกรรมให้นักเรียนร่วมกันทำเป็นกลุ่ม ทำให้เด็ก ๆ จะได้พัฒนาสกิลภาวะความเป็นผู้นำ การสื่อสารกับผู้อื่น ไปจนถึงการคิดอย่างอิสระ ไม่มีกรอบกำหนด
  • ได้พัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่เป็น Soft Skills ได้แก่ การบริหารเวลา การบริหารจัดการตัวเอง และความรับผิดชอบ
  • นักเรียนจะได้เปลี่ยนกลุ่มการทำงานบ่อย ๆ แตกต่างกันไปตามหัวข้อการเรียน หรือระดับความสนใจในเนื้อหา เป็นต้น

“จุดอ่อน” ของการเรียนรู้แบบนักเรียนเป็นศูนย์กลาง

  • บรรยากาศภายในห้องเรียนอาจวุ่นวายกว่าการที่เด็กนั่งฟังคุณครูสอนเพียงอย่างเดียว
  • คุณครูต้องโฟกัสกับการอธิบายเนื้อหาด้วย เพื่อไม่ให้เด็กสนุกสนานกับกิจกรรมมากจนเกินไป
  • อาจไม่เหมาะกับวิธีการเรียนรู้ของนักเรียนบางคน
St. Andrews Dusit มุ่งเน้นการเรียนรู้แบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง

โรงเรียนนานาชาติ St. Andrews Dusit มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ เพื่อดึงศักยภาพสูงสุดในตัวเด็ก

วิธีการเรียนการสอนของโรงเรียนนานาชาติ St. Andrews Dusit มุ่งเน้นไปที่การปรับหลักสูตรและเนื้อหาให้เข้ากับความถนัด ความชอบ และเหมาะกับสไตล์การเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคน เพราะเราเข้าใจดีว่าเด็กแต่ละคนมีความต้องการและเป้าหมายในการเรียนรู้ที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น เพื่อให้เด็กทุกคนสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพและเข้าใจตัวเองเป็นอย่างดี ดังนั้น การเรียนรู้แบบ Student Centered Learning จึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ

โดยหลักสูตรอังกฤษ (British Curriculum) ของเรา ไม่ได้มีแค่ความเข้มข้มทางวิชาการ แต่ยังประกอบไปด้วยความสนุกสนานตลอดการเรียนรู้ และมีความท้าทายผ่านกิจกรรม โจทย์ หรือโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่ให้นักเรียนได้ทดลองทำ คุณครูจะคอยดูและให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด เพื่อเอาชนะทุกอุปสรรคจนเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง

ตัวอย่างเช่นหลักสูตรอนุบาลอินเตอร์ของเรา มีกิจกรรม Continuous Provision ที่กระตุ้นการเรียนรู้ให้เด็กปฐมวัยด้วยการฝึกให้โต้ตอบต่อประเด็นหรือคำถามต่าง ๆ และหาวิธีการแก้ไขปัญหา ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างสมรรถนะทั้ง 7 ด้าน ที่เป็นทักษะจำเป็นสำหรับพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของเด็กอนุบาลอีกด้วย

สรุป

หลายคนอาจคุ้นชินกับการที่นักเรียนมีหน้าที่ตอบคำถามคุณครู และอ่านหนังสือเพื่อการสอบเท่านั้น แต่การสอนแบบนักเรียนเป็นศูนย์กลางในโรงเรียนนานาชาตินั้น สามารถดึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวเด็กออกมาได้ ยิ่งไปกว่านั้น นักเรียนบางคนอาจได้ค้นพบพรสวรรค์ที่ตัวเองก็ไม่ทราบมาก่อน ผ่านการเปิดโอกาสให้เด็กได้ทดลองเรียนรู้ด้วยตนเอง แม้ว่าจะเกิดความผิดพลาดบ้างในบางครั้ง แต่ทั้งหมดก็คือประสบการณ์ที่สั่งสอนพวกเขาได้เป็นอย่างดี