การเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่รั้วโรงเรียน มีทั้งการเสริมสร้างสุขภาพจิตใจให้แข็งแรง เพื่อให้ลูกมีมุมมองและทัศนคติที่ดีตั้งแต่เด็ก รวมไปถึงการปลูกทักษะและพัฒนาการที่จำเป็นต่อการเรียนในวันข้างหน้า และไม่ว่าพ่อแม่คนไหนก็อยากให้ลูกมีร่างกายที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย เพื่อให้พวกเขามีความสุขและสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด ซึ่งถ้าพูดถึงกิจกรรมที่ทำให้เด็กแข็งแรงทั้งกายและใจไปพร้อมกัน ก็คงหนีไม่พ้น “กีฬา” ที่เขาว่ากันว่าเป็นยาวิเศษชั้นดีนั่นแหละ บทความนี้เราจะมาแนะนำ 7 กีฬาสำหรับเด็กปฐมวัย ไปจนถึงชั้นประถม ที่เหมาะสมกับวัยและส่งผลดีต่อการเรียนรู้ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!

Content Highlight

• การเล่นกีฬา ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและทำให้เด็กรู้จักร่างกายตัวเอง ว่าควรเคลื่อนไหวแบบไหน รวมถึงการทำงานกันเป็นทีม ผ่านการวางแผนกลยุทธ์และสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม

• ฟุตบอล ช่วยฝึกฝนการประสานการทำงานกันระหว่างตาและเท้า เพื่อควบคุมทิศทางลูกบอลให้เป็นไปตามต้องการ สามารถฝึกการควบคุมอารมณ์และการทำตามกติกาได้เช่นกัน
• พ่อแม่คนไหนที่ชอบใช้เวลาร่วมกับลูก แบดมินตัน เป็นกีฬาที่ใช้อุปกรณ์น้อยและสามารถเล่นได้ทุกวัน นอกจากนี้ เด็ก ๆ จะได้ฝึกความคล่องแคล่ว ว่องไว และไหวพริบในการตัดสินใจได้อีกด้วย

ประโยชน์ของการเล่นกีฬาตั้งแต่อายุยังน้อย มีอะไรบ้าง

• พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อและจิตใจ กีฬาทำให้เด็กได้เคลื่อนไหวร่างกายบ่อยขึ้น ลดโอกาสการเกิดโรคต่าง ๆ ได้มากมาย และสิ่งสำคัญคือช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ลดความเครียดและทำให้เด็กอารมณ์ดีอีกด้วย
• ได้ค้นพบความชอบของตัวเอง การเล่นกีฬาจะทำให้เด็ก ๆ ได้งานอดิเรกใหม่ ๆ และยังทำให้เขาได้ค้นพบความชอบและความสามารถที่ซ่อนอยู่ ซึ่งหากฝึกฝนและซ้อมบ่อย ๆ ก็สามารถต่อยอดไปเป็นนักกีฬาอาชีพในอนาคตได้เลย
• ได้ฝึกฝนสมาธิไปในตัว เพราะการเล่นกีฬามาพร้อมกับการวางแผนกลยุทธ์ เพื่อให้เกิดชัยชนะในการแข่งขัน ทำให้เด็กจำเป็นต้องจดจ่อกับคู่แข่งและรูปแบบเกม ช่วยฝึกสมาธิและสามารถโฟกัสสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้เป็นอย่างดี
• เสริมสร้างความมั่นใจและภาวะความเป็นผู้นำ เพราะการเล่นกีฬาส่วนใหญ่จะต้องเล่นกันเป็นทีม การที่เด็กได้ช่วยเหลือเพื่อน ๆ จะทำให้พวกเขารู้สึกมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าลูกของคุณได้เป็นหัวหน้าทีมจะยิ่งมีบทบาทในการดูแลทีม ถือเป็นการฝึกทักษะความเป็นผู้นำให้กับเขาตั้งแต่ยังเล็ก
• ปรับตัวเข้าสู่สังคมได้ง่ายขึ้น การเล่นกีฬาจะทำให้เด็กมีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ทั้งเพื่อนร่วมทีมและคู่แข่ง นอกจากนี้ยังสามารถฝึกฝนความใจเย็นและความอดทนได้ด้วย เช่น การรอให้ตาตัวเองก่อนจึงเล่น และปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้าทีม เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มโอกาสในการเข้าสังคมใหม่ ๆ มากขึ้นและได้เจอเพื่อนที่มีความสนใจในกีฬาประเภทเดียวกัน

แนะนำ 7 กีฬาที่เหมาะกับวัยเด็ก เสริมพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ และสังคม

1. ฟุตบอล

ฟุตบอล เป็นกีฬาสำหรับเด็กประถมและปฐมวัยที่ยอดนิยมที่สุด เพราะไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือสถานที่ใหญ่โต แค่สนามกว้าง ๆ ก็สามารถเล่นได้แล้ว ซึ่งฟุตบอลช่วยฝึกทั้งทักษะการทรงตัว การเคลื่อนไหว และเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ สำหรับเด็กในช่วงก่อนวัยเรียน ไม่จำเป็นสนใจตัวกฎกติกามากนัก แค่ฝึกให้เด็กสามารถเตะเข้าเป้า หรือฝึกการรับ-ส่งลูกบอลก็เพียงพอแล้ว สำหรับเด็กประถมอาจเพิ่มเทคนิคการเลี้ยงลูกบอล ใช้กรวยหรือสิ่งกีดขวางต่าง ๆ มาช่วยฝึกฝนการประสานงานระหว่างตากับเท้า

นอกจากประโยชน์ทางกายภาพภาพ ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ต้องเล่นกันเป็นทีม จึงต้องอาศัยทักษะการสื่อสารร่วมกับสมาชิก การวางแผนกลยุทธ์ และการรู้จักเคารพกฎกติกา สิ่งเหล่านี้จะช่วยปลูกฝังทักษะด้านอารมณ์พื้นฐาน ที่จะช่วยให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นคงทางอารมณ์

2. ว่ายน้ำ

ว่ายน้ำเป็นกีฬาที่เหมาะกับวัยเด็กและถือเป็นกีฬาพื้นฐานสำหรับหลาย ๆ ครอบครัว เพราะช่วยให้เด็กไม่กลัวน้ำและเพิ่มโอกาสในการทำกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ ในอนาคต เพื่อไม่ให้เด็กเกิดความกลัวตั้งแต่เริ่มฝึกว่ายน้ำ ควรเริ่มจากการลอยตัวในน้ำให้พวกเขาคุ้นชิน โดยใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น ห่วงยาง หรือ Kick Board ช่วยทรงตัว หลังจากที่ลูกเริ่มสบายใจกับการอยู่ในน้ำแล้ว ก็ค่อยเริ่มฝึกฝนทักษะต่อไป ได้แก่ การเตะน้ำไปข้างหน้า การหายใจใต้น้ำ และการฝึกฝนท่าต่าง ๆ

โดยว่ายน้ำเป็นกีฬาที่ช่วยให้ปอดแข็งแรง สามารถควบคุมสติและกล้ามเนื้อได้ดี นอกจากนี้ ยังเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ ซึ่งแนะนำว่าควรฝึกกับคุณครูสอนว่ายน้ำโดยตรง เพราะคุณครูจะสามารถประเมินทักษะของเด็กได้ รวมถึงออกแบบวิธีการสอนที่เหมาะกับนิสัยของเด็กแต่ละคนได้ เด็กบางคนที่มีความกลัวมาก ๆ ก็ต้องสอนอย่างใจเย็น ส่วนเด็กที่เรียนรู้ไว ก็สามารถสอนทักษะต่าง ๆ ในระยะเวลาอันสั้นได้ เป็นต้น

3. บาสเกตบอล

พูดถึงกีฬาสำหรับเด็กที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ฟุตบอล ก็ต้องเป็นบาสเกตบอล โดยทักษะพื้นฐานอย่างการรับ การส่ง และการเลี้ยงลูกบาส ช่วยฝึกฝนทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็ว เพราะต้องส่งลูกบาสไปยังเพื่อนร่วมทีม พัฒนาทักษะการตอบสนองและไหวพริบในการเล่นกีฬาได้เป็นอย่างดี ในระยะแรกอาจเริ่มต้นจากการโยนลูกบาสลงห่วงก่อน เพื่อฝึกความแม่นยำ จากนั้นเพิ่มความยากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยระยะห่างจากแป้นที่ไกลขึ้น อย่าลืมชมพวกเขาทุกครั้งที่ทำแต้มได้หรือโยนลูกบาสลงห่วง จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตัวเอง

4. เทนนิส

เทนนิส เป็นกีฬาสำหรับเด็กประถมที่สามารถเล่นได้ทั้งกลางแจ้งและในร่ม เป็นกีฬาที่เน้นทักษะความคล่องแคล่วและว่องไว แถมยังได้พัฒนาทักษะการคิดอย่างรวดเร็ว ซึ่งเทนนิสมีความคล้ายกับฟุตบอลตรงที่ได้ฝึกการประสานงานของอวัยวะต่าง ๆ แต่เปลี่ยนจากตากับเท้า เป็นตากับมือ ถือเป็นการฝึกฝนทักษะการเคลื่อนไหวพื้นฐานให้ดีตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะมนุษย์จำเป็นต้องใช้มือในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การหยิบ การเขียน การยกสิ่งของ หรือการผูกเชือกรองเท้า เป็นต้น

5. แบดมินตัน

แบดมินตันถืออีกประเภทกีฬาที่อาศัยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอีกเช่นกัน เพราะต้องมองทิศทางลูกแบดและตีกลับหาคู่แข่งไปในทันที เพื่อไม่ให้เสียแต้ม ช่วยให้เด็กรู้จักเข้าใจและร่างกายของตัวเองมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นกีฬาที่เหมาะแก่การเล่นกันภายในครอบครัว คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกให้แน่นแฟ้น พร้อมกับช่วยให้ลูกสนุกสนานและมีร่างกายแข็งแรงได้ด้วยการเล่นแบดมินตันทุก ๆ ช่วงเย็น หลังเลิกงานหรือนัดวันสำหรับเล่นแบดมินตัวโดยเฉพาะก็ได้เช่นกัน

6. T-ball

ผู้ปกครองหลายท่านอาจไม่คุ้นหูกับกีฬา T-ball เท่าไหร่ แต่เป็นอีกหนึ่งกีฬาที่เหมาะกับวัยเด็กเป็นอย่างมาก รูปแบบการเล่นเป็นทีมคล้ายกับเบสบอล แต่เปลี่ยนจากมีคนขว้างลูกเพื่อตี เป็นการวางลูกบอลนิ่ง ๆ บนแท่นแทน เพื่อให้เด็กเล็กสามารถตีลูกบอลได้ง่ายขึ้นนั่นเอง และพื้นสัมผัสของลูกบอลจะมีความนุ่มกว่า มั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อเด็ก ๆ ทุกคน โดยสามารถเริ่มเล่นด้วยทีมที่มีผู้เล่นตั้งแต่ 5 ถึง 7 คนหรือมากกว่านั้นก็ได้ ซึ่งช่วยฝึกทักษะการเคลื่อนไหว การเหวี่ยงไม้ รวมถึงการประสานงานกันระหว่างตา มือ และแขน สำหรับกฎอื่น ๆ ก็จะมีความคล้ายคลึงกับเบสบอล แต่จะมีขนาดสนามที่เล็กกว่า

7. เกมเบ็ดเตล็ด

หรือรู้ไม่ว่าเราไม่จำเป็นต้องให้ลูกเล่นกีฬาแบบจริงจัง เพียงแค่เล่นเกมทั่ว ๆ ไป ก็สามารถเสริมสร้างพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจให้กับเขาได้เช่นกัน ซึ่งเกมเบ็ดเตล็ดเป็นอีกกิจกรรมที่สามารถออกแบบรูปแบบเกม กติกา และวิธีการเล่นได้ตามต้องการ เช่น การเดินทรงตัว ลอดห่วง โยนวงแหวนลงห่วง การปั่นจักรยาน วิ่ง 300 เมตร หรือวิ่งผลัดง่าย ๆ ก็ช่วยฝึกฝนทักษะการเคลื่อนไหว และได้ความสนุกสนานระหว่างเล่นกับเพื่อน ๆ อีกด้วย

St. Andrews Dusit สนับสนุนให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ ด้วยชมรมกีฬาหลากหลายประเภท

St. Andrews Dusit มีความเข้าใจเป็นอย่างดีว่า กีฬาเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาสมรรถภาพในตัวเด็ก ไม่ว่าจะด้านร่างกาย อารมณ์ และการอยู่ร่วมในสังคม หลักสูตรพลศึกษาและการว่ายน้ำของเราจึงถูกระบุไว้ในวิชารายสัปดาห์ เพื่อให้เด็ก ๆ มีสุขภาพที่ดีและมีความกระตือรือร้นในการเคลื่อนไหวตลอดเวลา มีทั้งกิจกรรมในร่มและกลางแจ้ง ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีว่าช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่อย่างครอบคลุม ตัวอย่างกีฬาที่เหมาะกับวัยเด็กภายในหลักสูตรของเรา มีดังนี้

• ฟุตบอล
• บาสเกตบอล
• ว่ายน้ำ
• เทนนิส
• แบดมินตัน
• T-ball
• การเล่นเกมปริศนา
• งานหัตถกรรม และอื่น ๆ อีกมากมาย

นอกจากการฝึกฝนกีฬาในชั้นเรียนแล้ว St. Andrews Dusit ยังเปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนได้โชว์ทักษะและความสามารถอย่างเต็มที่ ด้วยการแข่งขันภายในชมรมกีฬาและงาน Sport Days ที่จัดขึ้นเป็นประจำในทุก ๆ ปี เพราะเราเชื่อว่าเด็กทุกคนจะแข็งแรงและมีศักยภาพที่ดีขึ้นได้ ถ้าได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่และเหมาะสม

สรุป

แน่นอนว่ากีฬาไม่เพียงแค่ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ทั้งในครอบครัว เพื่อนร่วมชั้นเรียน และคุณครู ถ้าสภาพแวดล้อมรายล้อมไปด้วยความสุข เด็กก็มีสุขภาพจิตที่สวยงามตามไปด้วย คุณพ่อคุณแม่อาจลองสังเกตว่าลูกน้อยชอบกีฬาประเภทไหน เพราะใช่ว่าเด็กคนหนึ่งจะเหมาะกับกีฬาทุกประเภท อีกทั้ง ถ้าลูกได้เล่นกีฬาที่ตนเองชอบ เขาก็จะมีความสนใจในกีฬานั้น ๆ ไปจนโต