พ่อแม่เตรียมความพร้อมลูกจากชั้นประถมเข้ามัธยมอย่างไรดี
December 12, 2025

เคล็ดลับเตรียมความพร้อมลูกจากชั้นประถมเข้ามัธยม มั่นใจตั้งแต่วันแรกที่เรียน

การย้ายจากชั้นเรียนประถมสู่มัธยม ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับลูกและคุณพ่อคุณแม่ เพราะเด็ก ๆ จะได้ค้นพบโลกแห่งการศึกษาที่กว้างขวาง และน่าสนใจมากกว่าเดิม อีกทั้ง ยังเป็นเส้นทางที่กำหนดคณะในการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยด้วย บทความนี้ดุสิตเลยจะมาแจกเคล็ดลับเตรียมความพร้อมลูกเข้ามัธยม ว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่ผู้ปกครองควรวางแผนให้ลูก หลังจากเรียนจบชั้นประถมศึกษา

มัดรวม 5 วิธีเตรียมความพร้อมลูก จากชั้นเรียนประถมสู่มัธยมศึกษา

ชั้นมัธยมศึกษาคือเส้นทางเรียนใหม่ของเด็ก ๆ อีกหนึ่งขั้น แม้ว่าเนื้อหาที่เรียนจะยากขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าเตรียมความพร้อมให้ลูกอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยลดความกังวลให้พวกเขาได้ มาดู 5 วิธีที่ดุสิตสรุปมาให้ทุกคนกันเลย

1. วางแผนการเรียน & สายวิชาที่สนใจ

แผนการเรียนการสอนในมัธยมศึกษา มักจะแบ่งสายตามความถนัดหรือความสนใจของนักเรียน เช่น ภาษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คุณพ่อคุณแม่ลองสอบถามความต้องการของลูกว่า พวกเขาอยากโตไปทำอาชีพอะไร หรือสนใจศึกษาในสายวิชาไหนเป็นพิเศษ แล้วสนับสนุนลูก ๆ ต่อไป

2. เสริมทักษะการสื่อสาร พร้อมเจอเพื่อนใหม่

การเตรียมความพร้อมลูกเข้ามัธยมที่พ่อแม่หลายคนอาจมองข้าม คือทักษะสังคมอย่างการสื่อสาร เพราะการย้ายไปเรียนชั้นมัธยม ต้องเจอเพื่อนและคุณครูใหม่แน่นอน ลูกจะได้เรียนรู้วิธีเข้าหาและพูดคุยกับผู้อื่นอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะเด็กที่ย้ายโรงเรียน ยิ่งต้องสอนให้พวกเขากล้าแสดงออก มีความยืดหยุ่น เพื่อให้ปรับตัวเข้ากับโรงเรียนใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

การเตรียมความพร้อมลูกเข้ามัธยม เป็นสิ่งที่ช่วยลดความกังวลให้กับเด็ก

3. สอนเรื่องความรับผิดชอบต่อตัวเอง

เมื่อเทียบกับชั้นประถม เนื้อหาในชั้นมัธยมถือว่ายากกว่าและมีโปรเจกต์หรือการบ้านให้ทำเยอะกว่า ดังนั้น พ่อแม่ควรสอนให้ลูกมีความรับผิดชอบต่อตัวเอง หากมีการบ้านหลายวิชาก็ควรรีบทำให้เสร็จ และตั้งใจทำให้ดีที่สุด นอกจากจะช่วยให้เป็นเด็กที่มีวินัยแล้ว ยังทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองด้วย

4. เปิดโอกาสให้ลูกลองทำกิจกรรมต่าง ๆ 

ความสนุกของชั้นมัธยมศึกษาคือ มีกิจกรรมสนุก ๆ และโอกาสต่าง ๆ ให้เด็กได้ลองทำเพียบ ไม่ว่าจะเป็น สภานักเรียน, ดนตรี, ศิลปะ, กีฬา หรือค่ายเสริมทักษะ เป็นการฝึกทักษะทำงานร่วมกับผู้อื่น การตัดสินใจ ไปจนถึงภาวะความเป็นผู้นำ

5. ฝึกการบริหารเวลา

การให้เด็กได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมใหม่ ๆ ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ควรเตรียมความพร้อมลูกเรื่องการบริหารเวลาให้ดี เพราะเด็กอาจเผลอทุ่มเวลากับกิจกรรมมากเกินไปจนกระทบผลการเรียน ควรบอกลูกให้บาลานซ์ทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อให้เขามีความสุขในรั้วโรงเรียน และประสบความสำเร็จทางวิชาการไปพร้อม ๆ กัน

พ่อแม่ควรเตรียมความพร้อมลูก ก่อนเข้ามัธยมด้วยการฝึกบริหารเวลา

เช็กลิสต์ 4 วิธีเลือกโรงเรียนมัธยมให้ลูก ตอบโจทย์ทั้งวิชาการและกิจกรรม

สำหรับผู้ปกครองที่ต้องการให้ลูกเรียนต่อมัธยมที่โรงเรียนใหม่ หรือย้ายจากโรงเรียนไทยไปโรงเรียนนานาชาติ ดุสิตมีเช็กลิสต์ 4 ข้อที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับใช้ ในการเลือกโรงเรียนมัธยมที่ตอบโจทย์ลูก ทั้งหลักสูตรและกิจกรรมที่ครบครัน 

1. หลักสูตรของโรงเรียน

ควรเลือกโรงเรียนที่มีแนวทางหลักสูตรสอดคล้องกับ 21st Century Skills ที่ไม่ได้สอนแบบท่องจำ แต่ส่งเสริมการคิดเชิงวิพากษ์ การแก้ไขปัญหา และการลงมือปฏิบัติจริง เพื่อฝึกรับมือต่อความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และอยู่ร่วมกับผู้คนในสังคมได้อย่างสงบสุข

2. กิจกรรมนอกหลักสูตร (Extracurricular Activities)

ควรเลือกโรงเรียนที่มีรายชื่อกิจกรรมนอกเวลาเรียนที่หลากหลาย เช่น ว่ายน้ำ, เทนนิส, ทำอาหาร, หมากรุก หรือเต้นรำ และเป็นโรงเรียนที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อให้เด็กได้ลองทำอะไรที่นอกเหนือจากวิชาการบ้าง ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะได้ค้นพบความสามารถใหม่ที่ไม่เคยรู้มาก่อน และสามารถต่อยอดเป็นอาชีพในอนาคตได้

3. ขนาดของห้องเรียน

หลายคนอาจหุ้นตากับห้องเรียนที่มีนักเรียนมากถึง 40 – 50 คนต่อห้อง ซึ่งนั่นทำให้คุณครูไม่สามารถดูแลเด็ก ๆ ได้อย่างทั่วถึง พ่อแม่ควรเลือกโรงเรียนที่ใส่ใจถึงจุดนี้หรือมีห้องเรียนขนาดเล็ก ที่เด็กไม่เกิน 10 – 20 คน คุณครูจะได้มอบความรู้และให้ความช่วยเหลือนักเรียนได้เท่ากันทุกคน 

4. สภาพแวดล้อมโดยรวมของโรงเรียน

เช็กลิสต์ข้อนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่า การพาลูกไปเยี่ยมชมโรงเรียนในวัน Open House เพราะเด็กควรได้เลือกสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เขาชอบ ส่วนพ่อแม่ก็จะได้รู้ว่าสถานศึกษานั้นสะดวกสบาย และเสริมสร้างพัฒนาการให้ลูกแบบรอบด้านหรือไม่

St. Andrews Dusit เตรียมความพร้อมให้เด็ก ๆ สู่ชั้นมัธยมด้วยการพาไปเยี่ยมชม St. Andrews S107

St. Andrews S107 ทางเลือกโรงเรียนนานาชาติมัธยมสำหรับนักเรียน St. Andrews Dusit

นักเรียนชั้น Year 6 ของดุสิต สามารถเข้าเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาที่ St. Andrews S107 ได้โดยไม่มีการสอบเข้า และช่วยเตรียมความพร้อมให้ผู้ปกครองด้วยการส่งต่อข้อมูลภายในระหว่างวิทยาเขต เพื่อให้เด็ก ๆ เดินเส้นทางการศึกษาในครอบครัวเซนต์แอนดรูว์สต่อไปได้อย่างราบรื่นที่สุด

Transition Day สำหรับนักเรียนชั้น Year 6 ของดุสิต

เพื่อให้เด็ก ๆ ชั้น Year 6 ได้ทำความคุ้นเคยกับชีวิตมัธยมอย่างเต็มที่ เราจึงมีกิจกรรม Transition Day ที่พานักเรียนดุสิตไปเยี่ยมชม St. Andrews S107 รวมถึงตอบข้อสงสัยต่าง ๆ ในช่วง Q&A เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชีวิตในโรงเรียนมัธยมมากยิ่งขึ้น

เตรียมความพร้อมด้วย Transition Day สำหรับนักเรียนชั้น Year 6 ของดุสิต

หลักสูตรของ St. Andrews S107

สำหรับผู้ปกครองที่อยากรู้ว่าหลักสูตรในชั้นเรียน Secondary ของ St. Andrews S107 เป็นอย่างไร ดุสิตสรุปมาให้แล้วคร่าว ๆ ดังนี้

Key Stage 4

มอบหลักสูตร IGSCE ที่นักเรียนสามารถเลือกเส้นทางการเรียนได้ตามความต้องการ โดยมีกลุ่มวิชาให้เลือกมากมาย เช่น คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, ภาษา, ดนตรี, เศรษฐศาสตร์, กราฟิกดีไซน์ เป็นต้น และเป็นการเตรียมความพร้อมสู่ระดับที่สูงขึ้นอย่างหลักสูตร IB อีกด้วย

Key Stage 5

เปิดสอนทั้งหลักสูตร IB Diploma Programme (IBDP) และ IB Career Programme (IBCP) รวมถึงหลักสูตร BTEC และ ASDAN เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้หลักสูตรที่คุณภาพสูง และครอบคลุมตามแนวคิด Lifelong Learning พร้อมที่จะเผชิญความท้าทายใหม่ ๆ ในการศึกษาต่อไปในอนาคต

สรุป

การศึกษาต่อในชั้นมัธยมศึกษานับเป็นเส้นทางการเรียนที่ท้าทาย และอยู่ในช่วงที่ลูกกำลังเติบโตเป็นวัยรุ่น มีความอยากรู้อยากเห็น และสนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมากยิ่งขึ้น การเตรียมความพร้อมและเลือกโรงเรียนที่เหมาะสมให้ลูก จะช่วยให้เขาวางแผนการเรียนรู้ได้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเองที่สุด และทำให้คุณพ่อคุณแม่สบายใจได้ว่า ลูกน้อยจะได้รับความรู้ที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

General Enquiries : +66 (0) 2668 6231