“ภาษา” ถือเป็นเครื่องมือในการสื่อสารเพื่อทำความรู้จัก ค้นคว้าหาความรู้ และพูดคุยกับผู้คนในชีวิตประจำวัน แน่นอนว่าปัจจุบันการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 กลายเป็นเรื่องพื้นฐาน เพราะเป็นภาษาสากล ถูกใช้อย่างแพร่หลายและคนที่มีทักษะภาษาอังกฤษก็จะเข้าถึงองค์ความรู้ หรือโอกาสต่าง ๆ ได้มากกว่าคนอื่น ๆ แต่ถ้าอยากเพิ่มความสามารถให้ลูกของคุณ การเรียนรู้ภาษาที่ 3 ก็เป็นสกิลที่น่าสนใจ เพราะช่วยต่อยอดอนาคตของเด็กให้กว้างมากยิ่งขึ้น ถ้าคุณยังไม่เห็นภาพว่าการเรียนภาษาที่ 3 มีความสำคัญอย่างไร และถ้าจะเรียนภาษาที่ 3 ควรเรียนอะไรดี บทความนี้รวมคำตอบมาให้แล้ว!
Content Highlight
- การเรียนรู้ภาษาที่ 3 เป็นการเพิ่มพูนโอกาสในการทำธุรกิจ โอกาสในหน้าที่การงาน รวมถึงทำให้เข้าใจวัฒนธรรม มีสังคมที่กว้างขวางและหลากหลายมากขึ้นด้วย
- ภาษาที่ 3 ที่เด็กนิยมเรียนในปัจจุบันมีหลากหลาย ตัวอย่างเช่น ภาษาจีน เป็นหนึ่งภาษาที่สามยอดนิยม เพราะเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงานและมีผู้คนกว่าพันล้านคนใช้ภาษาจีนเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร
- การให้ลูกเรียนภาษาตั้งแต่ยังเด็ก มีแนวโน้มว่าเขาจะจดจำและออกสำเนียงได้ดีกว่าการเรียนตอนโต อีกทั้งยังช่วยพัฒนาการทางสมองนั้นดีกว่าเด็กคนอื่น ๆ อีกด้วย

การเรียนภาษาที่ 3 ในโลกปัจจุบัน มีความสำคัญอย่างไรบ้าง
ในยุคสมัยใหม่ที่ทุกคนบนโลกต้องการเชื่อมต่อถึงและกัน ภาษาที่ 3 กลายเป็นทักษะที่สำคัญที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม ถ้าอยากเปิดประสบการณ์และเพิ่มโอกาสเติบโตในอนาคตให้กับลูก มาดูเพิ่มเติมว่าภาษาที่ 3 มีความสำคัญต่อชีวิตและการเรียนรู้ของเด็กในอนาคตอย่างไรบ้าง
มีทักษะการจำและการเรียนที่ดีขึ้นกว่าเดิม
การเรียนรู้ภาษาที่ 3 มีประโยชน์ต่อพัฒนาการของสมอง เนื่องจากการเรียนรู้ภาษาจะต้องใช้การท่องจำ ทำความเข้าใจ และฝึกใช้งานจริง นอกจากนี้ แต่ละภาษาก็จะมีไวยากรณ์ การออกเสียง หรือวิธีการใช้ที่แตกต่างกันไป ยิ่งถ้าเป็นภาษาที่เราไม่คุ้นเคยก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้มากขึ้นไปอีก ดังนั้น เด็กที่เรียนภาษาที่ 3 จึงมีแนวโน้มที่มีความจำที่ดีกว่าเด็กคนอื่น ๆ รวมไปถึงความสามารถในการจดจ่อกับการเรียนรู้ การคิดวิเคราะห์ และการตัดสินใจที่เด็ดขาดมากกว่าอีกด้วย
เพิ่มโอกาสในการทำงาน
ในยุคศตวรรษที่ 21 สกิลภาษาที่ 3 ช่วยเพิ่มโอกาสให้กับเด็ก ๆ ทั้งในเรื่องของการทำธุรกิจ และโอกาสในสายอาชีพต่าง ๆ การมีสกิลภาษานอกเหนือจากภาษาอังกฤษ จะช่วยทำให้มีโอกาสทางการงานมากยิ่งขึ้น ได้ฐานเงินเดือนที่เยอะขึ้น ตำแหน่งที่สูงขึ้น หรือสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดคือ โอกาสทำงานที่ต่างประเทศ ถือเป็นข้อได้เปรียบที่พ่อแม่ทุกคนไม่ควรมองข้าม
ได้เรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรมต่างประเทศ
ภาษาที่ 3 คือ สื่อกลางในการเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกันตามแนวคิดความเป็นพลเมืองโลก (Global Citizen) ช่วยให้เด็กเข้าใจและได้เรียนรู้วัฒนธรรมอย่างแท้จริงยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ประเพณี ประวัติศาสตร์ หรือธรรมเนียมต่าง ๆ ผ่านการพูดคุยกับคนในท้องถิ่นโดยตรง นอกจากนี้ ยังทำให้ได้พบเจอกับสังคมใหม่ ๆ มีเพื่อนจากหลากหลายเชื้อชาติ และได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน เสริมทักษะการเข้าสังคม
ได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร
เพิ่มโอกาสในการเปิดประสบการณ์จากการท่องเที่ยวต่างประเทศ เปิดโลกทัศน์ให้กว้างยิ่งขึ้นและได้เที่ยวอย่างสนุกสนานไร้ความกังวล เพราะสามารถสื่อสารด้วยภาษาหลักของประเทศนั้น ๆ ทำให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เพราะสามารถเดินทาง สั่งอาหาร หรือพูดคุยกับพนักงานได้ด้วยตนเอง

ภาษาที่ 3 ที่ควรเรียนรู้ในปี 2025 มีอะไรบ้าง
จะเห็นได้ว่าข้อดีของการเรียนภาษาที่ 3 เพิ่มโอกาสให้กับลูกน้อยของคุณได้มากเลยทีเดียว แต่ว่าภาษาบนโลกนั้นมีมากกว่าพันล้านภาษา จะได้เรียนทุกภาษาเลยก็คงไม่ไหว มาดูกันดีกว่าถ้าอยากให้ลูกเรียนภาษาเพิ่มอีกสักภาษา ควรเลือกเรียนภาษาอะไรดี
1. ภาษาจีน
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรเยอะติดอันดับโลก ผู้คนกว่าพันล้านคนใช้ภาษาจีนในการสื่อสาร หลายบริษัทเองก็เล็งเห็งโอกาสในการตีตลาด ภาษาจีนจึงเป็นภาษาที่ 3 ที่เป็นที่ต้องการมาก ๆ ในสายงาน และมักถูกระบุเป็นคุณสมบัติพิเศษในรายละเอียดการรับสมัครงานด้วย ถ้ามีสกิลภาษาจีนก็มีแนวโน้มจะได้โอกาสทางการงานและเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น
สำหรับวิธีการเรียนรู้ภาษาจีน เด็กหลายคนอาจจะท้อกับการเขียนและจำคำศัพท์ ด้วยตัวเขียนที่แตกต่างไปจากภาษาไทยอย่างชัดเจน แต่ถ้าฝึกฝนเป็นประจำก็สามารถจดจำได้อย่างแน่นอน รวมถึงควรให้ความใส่ใจกับการออกเสียง เพราะสำเนียงที่ผิดเพียงนิดเดียวอาจเปลี่ยนความหมายไปเป็นอีกคำได้เลย อย่างไรก็ตาม ภาษาจีนเป็นภาษาที่สามที่สามารถต่อยอดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี และจะยังเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงานในอนาคตต่อไปอย่างแน่นอน
2. ภาษาญี่ปุ่น
เทคโนโลยี สินค้า หรือวัฒนธรรมต่าง ๆ จากประเทศญี่ปุ่นมีอิทธิพลต่อประเทศไทยมาเป็นเวลานาน คนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยที่ชอบมาท่องเที่ยวหรือทำการค้ากับไทย ดังนั้น จึงเป็นอีกภาษาที่ 3 ที่น่าสนใจ และเป็นภาษาที่เด็ก ๆ หลายคนอาจพอมีพื้นฐานมาบ้างจากการดู Anime เพราะในปัจจุบันเด็กสามารถเข้าถึงสื่ออนิเมะแบบถูกลิขสิทธิ์ได้หลากหลายช่องทาง และมีซับไตเติ้ลเป็นภาษาไทยให้เรียบร้อยแล้วด้วย แต่อาจจะต้องเรียนรู้ไวยากรณ์และวิธีเขียนเพิ่มเติม เพราะถือเป็นภาษาที่ความซับซ้อนในการผันไวยากรณ์อยู่ไม่น้อย
3. ภาษาเยอรมัน
เยอรมนีเป็นประเทศที่ขึ้นเรื่องอุตสาหกรรมยานยนต์ เทคโนโลยี และสินค้าระดับพรีเมียมอีกมากมาย รวมไปถึงระบบการศึกษาที่ดีระดับท็อปโลก การเรียนภาษาเยอรมันเป็นภาษาที่ 3 จึงสามารถต่อยอดโอกาสการการศึกษาและทำงานได้มากมาย โดยภาษาเยอรมันจะมีเพศของภาษา ได้แก่ เพศชาย เพศหญิง และเพศกลาง และมีระบบไวยากรณ์ที่ค่อนข้างยาก อาจต้องให้ลูกเสพสื่อและฝึกใช้งานบ่อย ๆ จะยิ่งช่วยทำความเข้าใจได้ไวยิ่งขึ้น
4. ภาษาฝรั่งเศส
หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่าภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการใน 29 ประเทศทั่วโลก และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภาษาที่ไพเราะที่สุด ด้วยสำเนียงอันเป็นเอกลักษณ์ ในส่วนของคำศัพท์บางคำสามารถเดาได้จากรากภาษาอังกฤษ แต่การออกเสียงจะแตกต่างกันไป และมีการแบ่งเพศของคำอีกด้วย เป็นภาษาที่ต้องความเข้าใจไวยากรณ์และจดจำศัพท์เยอะพอควร แต่ก็เป็นอีกหนึ่งภาษาที่ 3 ที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบันเช่นกัน
5. ภาษาสเปน
ในปัจจุบันมีคนพูดภาษาสเปนมากกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก และเป็นภาษาประจำชาติของ 21 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย นอกจากนี้ ในประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ประชากรใช้ภาษาสเปนในการสื่อสารมากกว่าคนในประเทศเสียอีก และมีการคาดการณ์ในอนาคตด้วยว่าจะมีคนใช้ภาษาสเปนเพิ่มขึ้นด้วย สำหรับในแง่ของไวยากรณ์นั้นถือว่าง่ายกว่าภาษาฝรั่งเศสและภาษาเยอรมันที่แนะนำไปข้างต้น แต่จะมีความยากในส่วนที่คนมักจะพูดภาษาสเปนค่อนข้างเร็ว เด็ก ๆ อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้และฝึกฝนสักหน่อย

แจกเคล็ดลับการเรียนภาษาที่ 3 อย่างไรให้ไม่ลืม และใช้งานได้จริง
- ให้ลูกเรียนภาษาตั้งแต่เด็ก ยิ่งเริ่มเรียนเร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งจดจำได้ดีมากขึ้นเท่านั้น เพราะเด็กจะมีความกระตือรืนร้น ความอยากรู้อยากเห็น และเป็นวัยที่พัฒนาการเติบโตอย่างรวดเร็วกว่าผู้ใหญ่ นอกจากนี้ การเรียนภาษาตั้งแต่อายุน้อย จะทำให้พวกเขามีเวลาในการฝึกสำเนียงจนสามารถคล้ายกับเจ้าของภาษาได้เลย
- เสพสื่อจากภาษานั้น ๆ เป็นประจำทุกวัน การเรียนภาษาที่เห็นผลที่สุดคือการเสพสื่อเป็นภาษานั้น ๆ เป็นประจำ ไม่ว่าจะดูซีรีส์ อ่านข่าว เปลี่ยนภาษาในโทรศัพท์เป็นภาษาที่ 3 อ่านนิทาน หรือพูดคุยกับเพื่อนเจ้าของภาษา ก็จะทำให้เรียนรู้ได้เร็วขึ้นและไม่ลืมง่าย ๆ อีกด้วย
- ฝึกให้เขาพูดหน้ากระจกบ่อย ๆ บางครั้งเด็กอาจไม่มีโอกาสพูดคุยกับจ้าของภาษาโดยตรง การบอกให้เขาฝึกพูดหน้ากระจกบ่อย ๆ ก็สามารถช่วยทบทวนความจำได้ หรือจะเป็นการพูดประโยคในชีวิตประจำวันให้เป็นภาษานั้น ๆ ก็ช่วยได้เช่นกัน

หลักสูตรภาษาที่ 3 จาก St. Andrews Dusit ช่วยให้เด็กสามารถสื่อสารและเข้าถึงความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น
St. Andrews Dusit มีหลักสูตรภาษาที่ 3 เพื่อเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ให้กับนักเรียนของเรามากยิ่งขึ้น และเปิดใจรับวัฒนธรรมใหม่ ๆ จากเพื่อนต่างเชื้อชาติ ซึ่งแผนกภาษาของเรามีให้เลือกถึง 5 ภาษาด้วยกัน ได้แก่ ภาษาจีนกลาง ภาษาฝรั่งเศศ ภาษาสเปน ภาษาญี่ปุ่น และภาษาไทย โดยหลักสูตรจะเน้นทั้งทักษะการอ่าน การเขียน การพูด และการฟัง ซึ่งวิธีการเรียนรู้ถูกปรับให้เหมาะสมกับวัยและความชอบของเด็กมากที่สุด ผ่านการแสดงละคร เล่นบทบาทสมมติ อ่านหนังสือ หรือเล่นเกมต่าง ๆ โดยใช้ภาษานั้น ๆ ควบคู่ไปกับการสอนแบบดั้งเดิม เพื่อให้ได้เรียนรู้ทั้งเชิงทฤษฎีและการใช้งานจริง เพราะ St. Andrews Dusit ไม่เคยปิดกั้นกรอบของภาษา และมุ่งหวังให้นักเรียนทุกคนสามารถสื่อสารทุกภาษาได้อย่างมั่นใจ
สรุป
การเรียนรู้ภาษาที่ 3 เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามและใช้เวลาในการศึกษา แต่ผลลัพธ์ที่ได้รับย่อมคุ้มค่ากับอนาคตของลูกของคุณอย่างแน่นอน การได้พูดคุยกับเจ้าของภาษา จะทำให้เด็กรู้สึกประสบความสำเร็จในชีวิต ได้ค้นพบประสบการณ์ใหม่ ๆ และเข้าถึงวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ การเรียนรู้หลายภาษาทำให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ เพราะได้รับมุมมองและองค์ความรู้ที่กว้างมากขึ้น ส่งผลให้การตัดสินใจและการแก้ปัญหานั้นดีตามไปด้วย